
แกงกะหรี่ญี่ปุ่น เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงอย่างมากของ “ประเทศญี่ปุ่น” จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติเลยก็ว่าได้ เชื่อว่าหลายคนอาจจะคิดว่าแกงกะหรี่ของญี่ปุ่นนั้นต้องมาจาก “อินเดีย” แน่นอน แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ความจริงแล้วมันเริ่มต้นจากการที่ประเทศอินเดียตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และอังกฤษได้นำ KALI ของอินเดียไปปรับสูตรให้ทานง่ายและลดกลิ่นฉุนของเครื่องเทศลง และเรียกว่า CURRY
ต่อมาเมื่อประเทศญี่ปุ่นเปิดอ่าวโยโกฮามา ช่วงปี 1859 ก็ทำให้อารยธรรมของชาติตะวันตกเริ่มเข้ามาแดนอาทิตย์อุทัยนี้ รวมถึงการเริ่มรู้จักกับแกงกะหรี่ของคนญี่ปุ่น ซึ่งได้มาเป็นเมนูหลักประจำวันเสาร์ของโรงเรียนฝึกทหาร ต่อมาเมื่อทหารเหล่านั้นกลับบ้านก็ทำให้สูตรแกงกะหรี่นี้เผยแพร่ไปทั่วประเทศญี่ปุ่นและได้รับความนิยมตลอดมา
สูตรแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเนื้อน่องลายนุ่ม ฟิน ละลายในปาก สไตล์เจแปนนีสตามต้นตำรับ

แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ในด้านรสชาติที่เค็มนำหวานตาม มีกลิ่นหอมเข้มข้นของเครื่องเทศ กรรมวิธีในการทำแตกต่างจากแกงกะหรี่ของอินเดีย สูตรแบบญี่ปุ่นจะนิยมใช้ก้อนแกงกะหรี่แบบก้อนที่มีส่วนผสมของแป้งสาลี ทำให้ได้น้ำแกงที่มีลักษณะเหนียวข้น ต่างจากของอินเดียที่ใช้เครื่องเทศโดยตรงมาผัด ลักษณะน้ำแกงถึงใสและเหลวกว่า
ส่วนผสมและวัตถุดิบสูตรแกงกระหรี่ญี่ปุ่น
- เนื้อวัวน่องลาย 500 กรัม
- แกงกะหรี่ญี่ปุ่นก้อน 1 กล่อง
- แคร์รอต 1 หัว
- มันฝรั่ง 3 หัว
- หอมใหญ่ 2 หัว
- แอปเปิ้ล 2 ลูก
- สาลี่ 1 ลูก
- กล้วยหอมสุก ๆ 2 ลูก
- น้ำสะอาด 2 ลิตร
- เกลือ
- พริกไทย
- ซีอิ๊วญี่ปุ่นผสมปลาแห้ง
ขั้นตอนการทำ
- ใส่น้ำมันลงไปในหม้อ รอให้ร้อนเล็กน้อย ใส่เนื้อวัวลงไปผัดไฟแรง จนเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อย
- ใส่สาลี่กับกล้วยที่ปั่นกับน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากัน ส่วนนี้จะทำให้แกงของเราหอมเข้มข้น
- ใส่น้ำเปล่าลงไป รอให้น้ำแกงใกล้เดือด
- เติมเกลือ 2 ช้อนชา และน้ำซุปปลาแห้ง 5 ช้อนโต๊ะ ถ้าใครไม่มีอาจใส่เป็นซีอิ๊วขาวแทนได้
- เมื่อน้ำแกงเดือดใส่หอมหัวใหญ่ มันฝรั่งและแคร์รอตลงไป
- ใส่แกงกะหรี่ก้อนลงไป คนให้เข้ากัน
- เคี่ยวน้ำแกงต่อให้ทุกอย่างเข้าเนื้อ ประมาณ 30 นาทีหรือจนน้ำแกงกะหรี่มีความหนืดขึ้นมาเล็กน้อย
- เติมเกลือและพริกไทยลงไป
สูตร แกงกะหรี่ญี่ปุ่น ซอสสุดเข้มข้น คู่กับหมูทอดทงคัตสึกรอบนอกนุ่มในแสนอร่อย

วัตถุดิบและส่วนผสมในแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
ส่วนของแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
- แกงกะหรี่ก้อน 1 กล่อง 230 กรัม
- เนื้อหมูส่วนสันคอ 500 กรัม
- หอมหัวใหญ่ 3 หัว
- มันฝรั่ง 2 หัว
- แคร์รอต 2 หัว
- แอปเปิล 1 ลูก
- น้ำเปล่า 1500 ml.
ส่วนหมูทอดทงคัตสึ
- หมูสันนอก 2 ชิ้น
- เกลือป่นหยิบมือ
- พริกไทยป่นหยิบมือ
- แป้งทอดกรอบตราหมีคู่ดาว 1 ถ้วย
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เกล็ดขนมปัง 1 ถ้วย
- น้ำมันปาล์มสำหรับทอด
วิธีทําอาหารญี่ปุ่นง่ายๆ
- หั่นผักเป็นชิ้นขนาดกลาง ๆ ตามชอบเตรียมไว้
- ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมันประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันร้อน นำหมูลงไปผัดพอสุก
- ใส่ผักทุกชนิดที่เตรียมไว้ในขั้นแรก จากนั้นผัดจนผักเกือบสุก
- เมื่อมีน้ำออกมากจากผักมากพอประมาณ ใส่น้ำเปล่าลงไป 1.5 ลิตร คนให้เข้ากัน
- เคี่ยวด้วยไฟกลางประมาณ 30 นาที ไม่ต้องปิดผา
- เบาไฟก่อน แล้วจึงใส่แกงกะหรี่ก้อน ค่อย ๆ คนให้ละลาย ถ้าดูแล้วน้ำน้อยไปให้เติมน้ำลงไปได้
- เมื่อแกงกะหรี่ละลายดีให้เปิดไฟกลาง เคี่ยวต่อประมาณ 10 นาที
- เติมน้ำลงไปเล็กน้อย แล้วชิมรส หากรู้สึกว่าจืดไปให้เติมเกลือลงไปเล็กน้อยตามด้วยพริกไทย
ขั้นตอนการทำหมูทอดทงคัตสิ
- นำค้อนมาทุบเนื้อหมูทั้งสองด้านเพื่อให้มีความนุ่ม
- ใช้มีดกรีดตรงขอบหมูให้ขาด เพื่อไม่ให้เนื้อหมูหด
- โรยด้วยเกลือ พริกไทยดำ ทั้งสองด้าน
- ตอกไข่แล้วตีให้พอแตกแยกไว้ เทเกล็ดขนมปังใส่ถาดแยกไว้ พร้อมเทแป้งทอดกรอบแยกไว้
- นำเนื้อหมูชุบแป้งทอดกรอบ ไข่ และเกล็ดขนมปังตามลำดับ จนได้เนื้อหมูครบทุกชิ้นตามที่เราต้องการ
- ตั้งกระทะ เทน้ำมันสำหรับทอด เปิดไฟกลาง เมื่อน้ำมันร้อน ค่อยนำหมูลงไปทอด จนหมูเป็นสีน้ำตาล ให้กลับด้าน
- ทอดหมูต่ออีกสักพัก สังเกตให้เนื้อหมูเป็นสีน้ำตาลทองแล้วตักไว้พักสะเด็ดน้ำมัน
- นำหมูทอดมาจัดเรียงคู่กับข้าวสวย ราดด้วยแกงกะหรี่ พร้อมเสิร์ฟ
คุณประโยชน์ที่ได้จากแกงกะหรี่ญี่ปุ่นจานนี้
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นอาหารที่มีสารอาหารที่หลากหลายและครบ 5 หมู่จานหนึ่ง อีกทั้งยังได้รับการเลือกให้เป็นอาหารกลางวันประจำโรงเรียนเกษตรซัปโปโร ในปี 1876 ซึ่งมุ่งเน้นในการรักษาอาหารขาดสารอาหารของนักเรียน รวมถึงใช้เป็นอาหารประจำโรงเรียนฝึกทหารของญี่ปุ่น เนื่องจากมีคุณประโยชน์หลายประการ
ประโยชน์ที่ได้จาก “แคร์รอต”

แคร์รอตเป็นผักยอดฮิตที่มักจะนำมาใส่ในแกงกะหรี่ เนื่องจากมีรสชาติที่หวานนุ่มเมื่อผ่านการเคี่ยวน้ำแกงแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นผักที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา โดยเฉพาะเยื่อชั้นในตาอย่างเรตินา และยังมีสารสำคัญอย่าง “ฟอลคารินอล” ช่วยต้านการก่อตัวของมะเร็ง
คุณประโยชน์จาก “มันฝรั่ง”

มันฝรั่งเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตชั้นดีที่ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย นอกจากนี้เมื่อต้มกับน้ำแกงแล้วทานคู่กันยังให้สัมผัสที่นุ่มละมุน เข้ากับรสชาติสุดเข้มข้นได้อย่างลงตัว นอกจากความอร่อยแล้ว มันฝรั่งยังมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น ลดความดันโลหิตได้ มีวิตามินบี 6 ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ผลิตสารสื่อประสาทที่ดีจำนวนมาก ได้แก่ อะดรีนาลีน กาบา เซโรโทรนิน มีผลช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอีกด้วย
เคล็ดลับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นทำตามนี้ รับรองอร่อยชัวร์

แกงกะหรี่ญี่ปุ่นเป็นเมนูต้มที่ดูเหมือนจะทำได้ไม่ยาก เพราะใช้วัตถุดิบไม่กี่ชนิดก็สามารถรังสรรค์สุดยอดเมนูแสนอร่อยได้แล้ว แต่ความจริงนั้นหากรู้เทคนิคพิเศษก็จะยิ่งทำให้ได้แกงกะหรี่ที่หอม เข้มข้นและรสชาติดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเคล็ดลับที่เรานำมาฝากก็มีดังนี้
ทำอย่างไร…แกงกะหรี่ญี่ปุ่นถึงมีรสชาติหอมหวาน นัว เข้ากันดี
น้ำแกงกะหรี่ปกติแล้วเราจะไม่นิยมใส่น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลชนิดอื่น ๆ เพื่อให้ความหวานเพราะจะได้รสชาติที่ไม่ละมุนลิ้น หากคุณต้องการรสชาติหวานมาตัดกับรสเค็ม แนะนำให้ลองใส่ผลไม้ที่มีรสหานอย่างเช่น แอปเปิล สาลี่ หรือกล้วยลงไป เพราะจะทำให้น้ำในผลไม้ออกมาผสมกับน้ำแกงตอนต้ม จะช่วยดึงรสชาติและเพิ่มความหอมได้อีกด้วย
ไขข้อสงสัย…แกงกะหรี่ญี่ปุ่น ทำไงให้เผ็ด
สำหรับชาวไทยอย่างเราแล้ว การได้ทานแกงกะหรี่รสชาติเผ็ด ๆ เป็นการตัดเลี่ยนได้อย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้นไปอีก แต่ไม่ว่าจะเลือกก้อนแกงกะหรี่แบบระดับเผ็ดสุด ก็ยังไม่ค่อยจัดจ้านอย่างที่ต้องการ เราแนะนำให้ลองเพิ่มปริมาณพริกไทยดำผงลงไปจะช่วยให้ได้รสชาติที่เผ็ดร้อนมากขึ้น หรือใครที่ต้องการรสชาติเผ็ดมาก ๆ แนะนำให้ใส่เป็นพริกแห้งบุบ ใช้กระชอนไว้เพื่อให้เอาออกได้ง่าย หรืออีกเทคนิคหนึ่งที่หลายบ้านใช้คือการใส่พริกแกงไทยลงไปผสมด้วยเล็กน้อย เท่านี้ก็ได้รสชาติที่เข้มข้นมากขึ้นแล้วล่ะ!
ชวนมาทำสูตรอาหารญี่ปุ่นแบบง่ายๆ
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นคืออาหารสุดป็อปปูลาร์ในญี่ปุ่น ซึ่งสาวกอาหารแบบเจแปนนีสเองก็หลงรักเมนูนี้ไม่แพ้กัน ขั้นตอนหลัก ๆ ของการทำคือการนำเนื้อสัตว์และผักลงไปผัดให้ได้น้ำออกมา จากนั้นก็เติมน้ำลงไปแล้วตามด้วยก้อนแกงกะหรี่ ทำการเคี่ยวประมาณ 20-30 นาทีเพื่อให้เนื้อเปื่อยนุ่มและได้น้ำแกงที่เข้มข้น ถือเป็นเมนูที่ทำง่ายไม่ยาก แต่เทคนิคการทำให้อร่อยคือการใส่เนื้อผลไม้ลงไปด้วย จะทำให้ได้น้ำแกงที่หวานมากยิ่งขึ้น จัดได้ว่าถ้าใครอยากลองทำอาหารญี่ปุ่นที่ไม่ยาก เหมาะกับมือใหม่ เมนูนี้เหมาะมาก
สนับสนุนโดย : https://ufaball.bet/เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์/